Into The Wild คือ หนังที่ออกแนวเป็นสารคดี หรือชื่อไทย ค้นหาชีวิตในป่ากว้าง เราเชื่อว่าใครบางคนต้องเคยได้ยินชื่อหนังเรื่องนี้ที่เคยฉายเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2007 กันมาบ้างแล้ว
ความเป็นมา และ นักแสดง
ทางเว็บเราขอนำเรื่องราว มุมมองของหนังเรื่องนี้มานำเสนอเพื่อสะท้อนแง่คิดและคำตอบของการใช้ชีวิตที่แท้จริงให้เพื่อๆชาว Premier Movie Reviews ได้เรียนรู้ไปด้วยกัน Into The Wild เรื่องจริง ของ Christopher McCandless ( คริสโตเฟอร์ จอห์นสัน แมคแคนด์เลส )
กำกับโดย Sean Penn ( ฌอน เพนน์ ) นำแสดงโดย Emile Hirsch ( อีมิล เฮิร์ช ) รับบท คริสโตเฟอร์ จอห์นสัน แมคแคนด์เลส หรือที่เรียกชื่อสั้น ๆ ในเรื่องว่า คริส นั่นเอง
หนังอิงจากหนังสือและเป็นเรื่องราวอันเกิดขึ้นจริง ลักษณะการถ่ายถอดคล้ายสารคดีชีวิต เรื่องราวเริ่มต้นจากคริสเด็กหนุ่มผู้รักอิสระ เขาได้ปลีกวิเวกพาตัวเองออกจากครอบครัวและสังคม
เนื่องจากให้เหตุผลว่าพ่อแม่ยึดติดกับ เงิน อำนาจ ความรัก ทรัพย์สิน อันเป็นนามธรรมของสังคมมนุษย์มากเกินไป เมื่อถึงจุดที่ทนไม่ได้และต้องการหาความสุขที่แท้จริงในชีวิต เขาจึงเลือกจุดมุ่งหมายการเดินทางไปที่อะลาสก้า เพื่อนๆคงคิดใช่ไหมว่าทำไม คริส ถึงเลือกไป อะลาสก้า
เครดิตภาพจาก filmograd.net
ทำไม คริส ถึงเลือก เข้าป่าค้นหาชีวิต มา Into the Wild รีวิว กัน
เหตุผลเพียงพ่อและแม่ของคริสเป็นบุคคลที่มีฐานะร่ำรวย มีรายได้จำนวนมาก เงินจึงเข้ามามีอิทธิพลในชีวิต ความสุขที่เคยใช้เวลาร่วมกันกับ คริส และ น้องสาวจึงลดน้อยลง คริสจึงเกลียดเงินทองกับทรัพย์สิน
เพราะเขามองว่าเป็นนามธรรมที่ควบคุมมนุษย์ได้และพรากความสุขไปจากชีวิตของเขา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาอ่านหนังสือแนวปรัชญา หนังสือประสบการณ์ชีวิตของนักเดินทางหรือนักคิด ซึ่งตัวอักษรในหนังสือสามารถสื่อสารกับเขาเข้าใจประหนึ่งว่าเจอเพื่อนคิดลักษณะเดียวกัน
คริส จึงมีความคิดในการออกเดินทางเข้าป่าหาธรรมชาติเพื่อหาคำตอบของความสุขในชีวิต โดย คริส ได้เขียนบันทึกการเดินทาง ถ่ายภาพ กับผู้คนที่เข้าพบเจอ สถานที่ต่างๆ ในระหว่างการเดินทาง และใช้ชื่อใหม่ว่า “อเล็กซานเดอร์ ซูเปอร์แทรมป์” บนเส้นทางการผจญภัย คริส พบเจอนักเดินทาง ชาวบ้าน และชาวนาชาวไร่
เขาได้ใช้ชีวิตเต็มรูปแบบเพื่อความอยู่รอด เช่น การโบกรถ พายเรือแคนนูจากแม่น้ำไปสู่ท้องทะเล ต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิตหลายต่อหลายครั้ง เขากลับเข้าไปพักในเมืองเพื่อทำงานในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด
เพื่อหาเงินยังชีพในการเดินทาง คริส ใช้เวลากว่าสองปีเพื่อไปถึงอะลาสก้า เขาคาดหวังว่าธรรมชาติป่าที่นั่นจะทำให้เขาค้นพบชีวิตที่สงบสุขอย่างแท้จริง แต่การเอาตัวรอดในภูมิประเทศแห้งแล้งและทุรกันดาร ทำให้บ่อยครั้งเขาต้องอดอยาก ทำได้แค่ใช้ชีวิตในซากรถบัสสีเขียวเก่าๆ ที่พบอยู่ในป่าอะลาสก้า กระทั่งอาหารที่สำรองไว้ใกล้หมดลง
คริส ต้องตัดสินใจที่จากซากรถบัส และเดินทางกลับเข้าสู่เมือง แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศในฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งที่เขาเดินข้ามมาอย่างสบาย
แต่ในฤดูร้อนกลายเป็นแม่น้ำสายเชี่ยวกราดที่กั้นขวางไม่ให้คริสสามารถข้ามผ่านไปได้ คริสจึงต้องย้อนกลับไปที่ซากรถบัสที่พักอย่างหมดสภาพ และเขียนทุกความรู้สึกลงในสมุดบันทึกจนลมหายใจของชีวิตแผ่วเบาลง
เครดิตภาพจาก touchphoneview
Into The Wild ให้คำตอบอะไรกับชีวิต
การออกเดินทางตามหาความหมายของชีวิตครั้งนี้ จบลงด้วยการแลกชีวิตของ คริส แต่อย่างน้อย คริส ก็ได้ทำตามเป้าหมายของชีวิตที่เขาตั้งใจไว้ แม้หลายๆ คนอาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำ และใครอีกหลายๆ คน อาจยกย่องเขาเป็นผู้กล้าหาญ …
หนัง จึงแฝงไปด้วยความหมายและข้อคิดจากตัวละครทุกตัว และสะท้อนให้เห็นว่าความสุขที่แท้จริงของมนุษย์ อยู่ที่ใจ และจิตที่ให้อภัย ปล่อยวางและปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่การแสวงหาหรือใช้ชีวิตที่ปราศจากเงินทองหรือใช้เงินทองซื้อความสุข ทุกอย่างอยู่ที่คำว่า “พอดี” เพราะความคิดของ คริส
การต่อต้านสังคมเมืองอย่างสุดโต่ง การยอมใช้ชีวิตในที่ว่างเปล่าเพื่อหาความสุขแท้จริง ไม่ใช่คำตอบของชีวิตของคริสในครั้งนี้ จึงเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ชม ได้เรียนรู้การเดินสายกลาง และปรับใช้กับชีวิตตนเองได้เป็นอย่างดี สำหรับครั้งต่อไป Premier Movie Reviews จะนำเสนอเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับอะไร ขอได้โปรดอดใจรอและติดตามกันนะครับ
หนังที่คุณอาจสนใจ “Alive” คนเป็นฝ่านรกซอมบี้